จากไม้รูดถึงเกาะกง (ตอนจบ)
โดย นิพนธ์ เรียบเรียง
เราออกจากที่พักที่บ้านไม้รูดในช่วงเช้าหลังอิ่มท้องดีแล้ว ทั้งคณะก็มุ่งหน้าสู่ชายแดนไทยกัมพูชาที่บ้านหาดเล็ก โดยมีปลายทางอยู่ที่เมือง “ประจันต์คิรีเขตต์”
อย่าเพิ่งขมวดคิ้วครับเพราะนี่คือชื่อของจังหวัดเกาะกงในสมัยที่ยังอยู่ในเขตของสยามประเทศนั่นเอง รัชกาลที่ห้าท่านทรงโปรดพระราชทานนามให้คู่กับประจวบคีรีขันธ์ โดยหากลากเป็นเส้นตรงตามแนวชายฝั่งทะเลทั้งสองเมืองนี้จะอยู่ตรงกันพอดี หลังจากมีการแบ่งแยกดินแดนในสมัยที่ฝรั่งเศสและอังกฤษมาล่าอาณานิคมจึงกลายเป็นเกาะกง จังหวัดหนึ่งที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลของประเทศกัมพูชา นั่นเอง
ขั้นตอนการผ่านด่านทำได้ไม่ยุ่งยากเพียงมีหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตก็ใช้ได้แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ทาง อพท. ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อผ่านแดนให้ทีเดียวทั้งคณะ
เมื่อข้ามผ่านไปยังฝั่งกัมพูชา เราแวะเข้าห้องน้ำกันที่โรงแรมที่มีคาสิโนด้านหน้าด่านที่นี่ครบครันทั้ง Duty free และที่พักสวยหรูจนหลายคนที่ร่วมทางชักเคลิ้มๆอยากเสี่ยงโชคขึ้นมาบ้างทีเดียว
ระหว่างเส้นทางเกาะกงนั้นจะมีเจดีย์ขุนช้างตั้งอยู่ทางซ้ายมือ สอบถามคุณเหน่งผู้นำทางจากจังหวัดตราดก็ได้ความว่าเป็นเหมือนการชวนให้นึกถึงความเกี่ยวพันกับไทย โดยผ่านวรรณคดีขุนช้างขุนแผนนั่นเอง ชวนให้คนไทยแวะเที่ยวว่างั้นก็ได้
สักพักใหญ่เราก็มาถึงท่าเรือที่จะนำพาทั้งคณะไปยังน้ำตกตาไตแห่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ว่ากันว่างดงามไม่แพ้ที่ใดๆ เรานั่งเรือกันไปประมาณครึ่งชั่วโมง สองข้างทางเป็นป่าโกงกางสายน้ำนิ่งสนิทให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา กระทั่งเรือผ่านโค้งน้ำและค่อยเผยให้เห็นตัวน้ำตกสีขาวลดหลั่นกันขวางกันลำน้ำทั้งสาย เป็นอันว่าการเดินทางๆน้ำต้องมาสิ้นสุดณ.จุดนี้
เรือนั่งท่องเที่ยวทยอยเข้าเทียบท่านักท่องเที่ยวหลายคนเดินเลาะขึ้นไปยังต้นน้ำตกเพื่อถ่ายภาพ เสียงพูดคุยดังแข่งกับเสียงสายน้ำไหลธรรมขาติยังคงงดงาม อาจมีบ้างในเรื่องการทิ้งขยะมูลฝอยที่ทำให้เสียบรรยากาศเล็กน้อย เด็กน้อยเจ้าถิ่นผู้ทำหน้าที่ขับเรือลงไปแช่น้ำเล่นกับเพื่อนๆระหว่างรอนักท่องเที่ยว นั่งคือภาพชีวิตที่น้ำตกตาไต....ติดตามชมเรื่องราวเหล่านี้ใน โลกกับเลนส์ ทางช่องยูทูป
ขอขอบคุณหน่วยงาน อพท. และ อบต.ไม้รูด ที่ช่วยดูแลตลอดการเดินทา