“พังงาในวันฟ้าฉ่ำฝน” (ตอนจบ)
เรื่อง/ภาพ: นิพนธ์ เรียบเรียง
อีกด้านหนึ่งของพังงาในวันต่อมา ที่อำเภอตะกั่วป่าเมืองเก่าแก่ตำนานแห่งเหมืองแร่ที่ศิลปินแห่งชาติและนักเขียนชั้นครูอย่างอาจินต์ ปัญจพรรค์ได้เคยถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องสั้นชุดเดี่ยวเหมืองแร่อันโด่งดังในอดีตและกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนคงจะรู้จัก
ถึงแม้วันนี้ในเมืองเก่าที่มากไปด้วยเรื่องราวอย่างตะกั่วป่าได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบของถนนคนเดินหรือ Walking street ไปแล้ว แต่บรรดาร้านรวงเก่าแก่อย่างร้านซ่อมนาฬิกาและไฟแช็คยังเปิดให้บริการโดยมีลูกค้าประจำสูงวัยที่ดูจะคุ้นเคยผูกพันกับเจ้าของร้านมาเนิ่นนาน คลีนิคทำฟันที่ทำให้เราได้เห็นวิวัฒนาการของฟันปลอมก็ตั้งอยู่ถัดไปไม่กี่ห้องภายในอาคารบ้านเรือนลักษณะชิโน-โปตุกีส เช่นเดียวกับที่ภูเก็ต เสร็จจากการเดินชมย่านเก่าและรองท้องด้วยขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้เรียบร้อยแล้ว
จึงได้เวลาล่องเรือผจญภัยกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของพังงาที่ชื่อว่า Little Amazon ในลำคลองสังเหน่ ชื่อเรียกนี้ก็เนื่องด้วยสภาพทางธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์อยู่มากคล้ายป่าอเมซอนนั่นเอง ต้นไทรอายุรุ่นคุณทวดแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วท้องน้ำและกลายเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์ต่างๆ
เราพบงูปล้องทองขดตัวอยู่บนคบไม้มันอาจกำลังพักผ่อนหรือรอเหยื่อโชคร้ายก็เป็นเรื่องเหนือการคาดเดา ปูตัวน้อยเกาะแน่นกับกิ่งต้นจากไม่หลบหนีการถ่ายภาพของคนแปลกหน้าอย่างพวกเรา สายฝนยังคงโปรยปรายแต่ความรู้สึกกลับสดชื่นความงามปรากฏตัวท่ามกลางความเขียวขจีของแมกไม้ คล้ายกับได้ย้อนไปสู่ผืนป่าโบราณ
ลำคลองสายนี้มีความยาวประมาณสองกิโลเมตรเชื่อมต่อไปบรรจบกับแม่น้ำตะกั่วป่า โดยเรือที่ให้บริการจะมีทั้งเรือแคนนูยางและเรือพีทหรือเรือหาง ที่ชาวบ้านย่านนั้นใช้ในการหาปลานั่นเอง
การพานักท่องเที่ยวชมลำคลองสังเหน่จึงนับเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มเติมรายได้ ที่แห่งนี้น่าจะเหมาะแก่การดูนกโดยเฉพาะพวกนกกินปลาต่างๆ หรือแม้กระทั่งนกเงือก ชาวบ้านก็บอกว่าสามารถพบเห็นได้
เมืองพังงาในวันนี้นอกจากหาดเขาหลักหรืออ่าวพังงา ที่นักท่องเที่ยวรู้จักเป็นอย่างดีแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์แห่งใหม่ ก็ยังรอคอยคู่รักนักผจญภัยให้มาสัมผัส