รูปๆคำๆ : ตลาดเก่าและเตาฟืน
เรื่องและภาพ : นิพนธ์ เรียบเรียง
วัยเด็กของผมนั้นมีป้าสะใภ้เป็นผู้ดูแลเพราะพ่อและแม่ต้องไปทำงานกว่าจะกลับก็ค่ำมืด
ป้าไหวเป็นแม่ครัวมือเก่าผ่านงานในรั้วในวังมาเนิ่นนานจนกระทั่งแต่งงานกับลุงจึงกลายมาเป็นแม่บ้านชนิดที่ตรงตามแบบธรรมเนียมโบราณที่ว่าต้องตื่นก่อนนอนทีหลังสามีอะไรทำนองนั้น
ชีวิตในครัวของป้าก่อนทุกคนในบ้านกลับจากทำงานก็จะมีวิทยุทรานซิสเตอร์กับละครคณะเกษทิพย์เป็นเพื่อนสนิทและเปิดมันไว้ตลอดเวลา
จนผมเองในวัยช่างจำนั้นสามารถร้องเพลงโฆษณาถ่านไฟฉายตรากบซึ่งมีท่อนพูดแบบเพลงแร็ปในสมัยปัจจุบันได้อย่างคล่องแคล่ว
เมนูที่เลื่องชื่อของป้าคือแกงมัสมั่นที่เลือกเนื้อติดเอ็นมาเคี่ยวให้เปื่อยยุ่ยด้วยเตาฟืน “ต้องเตาฟืนเท่านั้น” ป้าย้ำมันให้ความร้อนสูงและคุมความระอุได้ดีกว่าเตาแก็ส
แน่นอนว่ามัสมั่นหนึ่งหม้อใหญ่ในพ.ศ.นั้นกินเวลาหลายชั่วและบางครั้งถ้าต้องทำในปริมาณมาก มันจึงอาจเริ่มตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็นเลยด้วยซ้ำ เครื่องเทศและหอมใหญ่ทั้งลูกที่เคี่ยวรวมลงไปยุ่ยเละกลืนไปในน้ำแกง แน่นอนว่าถูกตักกินจนเกลี้ยงจากลูกหลานหลายคนที่เฝ้ารอเมนูเด็ดรายการนี้
ท้ายสุดก่อนล้างหม้อล้างชามน้ำแกงที่เข็มข้นนั้นถูกนำมาทาลงบนขนมปังปิ้งกินกับอาจาดซึ่งก็คือหอมแดงหั่นดองในน้ำส้มออกรสเปรี้ยวหวาน.....และมันคือสิ่งวิเศษของผม
ที่ตลาดเก่าริมแม่น้ำบางปะกงในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง "2499 อันธพาลครองเมือง" ด้วยฝีมือผู้กำกับอย่างนนทรีย์ นิมิบุตร
ตลาดในวันวานถูกชุบชีวิตอีกครั้งเมื่อผู้คนนิยมมาจับจ่ายหรือแม้กระทั่งเดินท่องเที่ยวถ่ายภาพ ด้านในของตลาดแห่งนี้สามแม่ครัวรุ่นคุณป้ายังวุ่นวายกับงานหน้าเตาไฟฟืนมีควันลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ลูกค้าประจำที่นั่งรออย่างอดทนไม่ได้มีท่าทีเบื่อหน่ายกับความล่าช้าในการปรุงอาหารจานเด็ดต่างๆ อย่างผัดปลาช่อนใบคึ่นช่ายหรือต้มยำรสจัดจ้าน แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนก็ตาม
สายตาของพวกเขาล้วนแต่จ้องมองดูความเคลื่อนไหวของคุณป้าสามพี่น้องที่ทำอาหารไปและบางครั้งก็ถกเถียงกันไป โดยที่ไม่สนด้วยว่าไอ้พวกที่นั่งกลืนน้ำลายรอมันจะว่ายังไง (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น )
มันเหมือนการชมอุปรากรจีนหรือว่างิ้วนั่นเอง ผมคิดอย่างนั้นต่างเพียงแต่ว่าคุณป้าสามคนพี่น้องนี้เขาบรรเลงเพลงชีวิตให้เห็นกันสดๆ ไม่ต้องมีโรงมีชุดให้วุ่นวาย
วันนี้ป้าไหวหมดแรงทำแกงมัสมั่นหรือแกงอื่นใดแล้ว แต่เมื่อใดที่มีคนพูดถึงความหลังในครัวเตาฟืนของป้า แววตาแกจะเปล่งประกายบางอย่างออกมา ซึ่งผมอยากจะเรียกมันว่า....แววตาของยอดฝีมือ