ได้แล้ว “6 แชมป์” ต้นกล้าอนุรักษ์ผ่านเรียลลิตี้กลางกรุง
“อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018” ซี่ซั่นแรก
กระแสอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทยกำลังมา ล่าสุดในแขนงการต่อสู้ บริษัท เอเอ็มที 88 จำกัด และ สถาบันการพละศึกษา ปลุกกระแสอนุรักษ์มวยไทยให้คนรุ่นใหม่ต่อยมวยไทยได้ ท่าทางถูกต้อง พร้อมรู้จักมวยไทยกว่า 600 ท่า สูญหาย ผ่านแคมป์เรียลลิตี้โชว์กลางกรุง 3 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มี.ค. –31 มี.ค. ที่ผ่านมา ณ ลานพาร์คพารากอน
โดยลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท เนรมิตรเวที Amazing Muay Thai Champion 2018 รายการเรียลลิตี้มวยไทย รายการแรกของประเทศไทย ที่จะพลิกทุกประวัติศาสตร์การแข่งขันเรียลลิตี้มวยไทย เพราะในรายการนี้ไม่ได้ใช้แค่พละกำลังเป็นตัวตัดสิน แต่ใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยแท้ๆ เป็นเกณฑ์หลักในการตัดสิน หายอดนักสู้ 1 เดียวในสังเวียน ได้รับความสนใจจากชายหนุ่ม 15-23 ปี สมัครเข้าร่วมแข่งขันกว่า 300 คน คัดเหลือ 24 คนสุดท้าย ขึ้นชกใน 6 รุ่น ชิงเงินรางวัลรุ่นละ 100,000 บาท พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมกว่าล้านบาท ท่ามกลางโค้ชนักมวยแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยเป็นผู้ฝึกสอน (31 มี.ค. ณ ลานพาร์คพารากอน เวทีอะเมซิ่งมวยไทย)
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ท่านวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , คุณปริวัตร วรรณกลาง ประธานจัดการแข่งขัน และ คุณพีรธัช สุขพงษ์ ประธาน เอ เอ็ม ที 888 กรุ๊ป ผู้จัดเผยแนวคิดว่า เวที “อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 ” เรียลลิตี้ค้นหาสุดยอดนักมวยขึ้น เน้น เตะ ต่อย ด้วยท่าทางถูกต้อง ผ่านโค้ชทีมชาติ และนำแม่ไม้มวยไทยกว่าหกร้อยท่ามาใช้ ในซีซั่นแรกเน้น 39 ท่า ที่ทำได้ไม่ยากมานำเสนอก่อน ส่วนท่าแม่ไม้มวยไทยที่ลึกลงไปจะค่อยๆ เผยในซีซั่นต่อไป
นอกจากความรู้ ความบันเทิง ผู้ชมยังได้แก่นแท้ของศิลปะแม่ไม้มวย แม่ไม้เฉพาะที่ชาวโลกเลียนแบบได้ยาก ควบคู่กัน โดยไฮไลท์ของเวทีนี้ มีโชว์ท่ายาก ปล่อยอาวุธสวยงามเต็มเวที อาทิ พร้ายายแก่, ฤาษีเหิน, ขว้างจักรนารายณ์, พระพายล้มสิงขร, กาจิกไข่ ฯลฯ ทำเข้าเป้า ส่งแรง จนชาวต่างชาติที่มาชมต้องร้องอะเมซซิ่ง
นอกจากนี้ ภายในแคมป์ต้องการปลุกกระแสอนุรักษ์มวยไทย เสมือนจดลิขสิทธิ์ศิลปะการต่อสู้ของไทยสู้สายตาชาวโลก แบ่งออกเป็น 4 โซน
โซนแรก นิทรรศการเข็มขัดแชมป์ ของทั้งสี่โค้ช เรื่องราว แมทช์ที่ประทับใจ,
โซนที่สอง เวทีมวยขนาดใหญ่ ตรงกลาง สำหรับการฝึกซ้อมของนักมวยแต่ละทีม ซึ่งหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันรวม 24 คน 6 รุ่น,
โซนที่สาม ห้องฝึกซ้อมของนักมวยแต่ละทีม แบ่งเป็นห้องๆ พร้อมครูผู้ช่วยประจำทีม ในการดูแลของทั้ง 4 โค้ชที่วางแผนการชกให้ลูกทีม และสุดท้าย
โซนที่สี่ ของที่ระลึกเกี่ยวกับมวยไทย อาทิ กางเกงมวย, นวม, กระเป๋า, ผ้าพัน ฯลฯ ก่อนจะมาแข่งรอบชิงชนะเลิศในที่สุด
นี่เป็นแค่ซีซั่นแรก ถ้ามีผู้ใหญ่ใจดี คงได้เห็นซีซั่นหน้า ชมฝีมือมวยไทยรุ่นใหม่ย้อนหลังได้ที่ Youtube: Amazing MuayThai Champion Channel Facebook : amazingmuaythaichampion
**หมายเหตุ**
ด้านผู้เข้าแข่งขันของโค้ช 4 ทีม ประกอบด้วย ทีมครูขาวผ่อง ทีมครูเป็ด ทีมครูสมรักษ์ ทีมครูสามารถ
- เริ่มรุ่นฟลายเวท คัมภีร์ ดียิ่ง ทีมครูขาวผ่องชนะ อายุ 19 ปี จากโรงเรียนกีฬาอ่างทอง เริ่มฝึกมวยตั้งแต่ป.1 ฝึกกับครูขาวผ่อง เรื่องออกอาวุธ มีอาวุธนำไป ไม่รับฟรี หลงเสน่ห์มวยไทยมีพิษสงรอบตัวมีความสวยงามอยู่ในตัว ตนเองเรียนสายวิทยาศาสตร์กีฬา ต่อไปอยากเป็นเทรนเนอร์
- แบนตั้มเวท รัตนะ เพ็งศิริ ทีมครูสมรักษ์เอาชนะได้ ปัจจุบัน เรียนปี 3 สพล.อ่างทอง ชอบออกกำลังกายและมีครูบาสเป็นไอดอล ตั้งใจฝึกซ้อมมาตลอดเพราะหลงเสน่ห์มวยไทยอยู่แล้วจนได้ข่าวเวทีรับสมัคร มีความพร้อมเต็มร้อย สิ่งที่ได้รับจากค่ายคือความรู้เพิ่มเติม ได้ฝึกฝนท่ายากและเทคนิคแก้ทางมวย
- เฟเธอเวท น้ำหนัก 54-57 กก. เดชาวัฒน์ สวนนิภา ทีมครูสามารถชนะ ฝึกมวยตั้งแต่ ม.2
- ไลท์เวท น้ำหนัก 57-60 กก. สายชล เพ็งศรี ทีมครูสามารถชนะ โชว์ท่ายากสุด พระรามเหยียบบลงกา
- เวลเตอร์เวท น้ำหนัก 60-64 กก. นครินทร์ อินทระไชย นักชกบาร์เบียร์ ค่าตัว 2,000 บาท ซ้อมเช้า ซ้อมเย็น จนสำเร็จ
- ไลท์มิดเดิลเวท น้ำหนัก 64-67 กก. สกุลพงษ์ สุมทองสา ทีมครูสามารถชนะ โชว์บาทาลูบพักตร์เรียกเสียงสนั่น ฯลฯ