ไทยกับประเทศคู่ FTA ครึ่งปีแรก 2561 โตต่อเนื่อง 14.24%
ท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์การค้าโลก
‘พาณิชย์’ เผยการค้าไทยกับคู่เจรจา FTA เติบโตต่อเนื่อง ช่วงครึ่งปีแรกไทยส่งออกไปอาเซียนสูงสุด รองลงมาเป็น จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย มูลค่าการค้าไทยกับประเทศคู่เจรจา FTA 17 ประเทศ จาก 12 ความตกลง เพิ่มขึ้น 14.24% ด้านส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.29% และนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.20%
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา FTA จำนวน 17 ประเทศ จาก 12 ความตกลง ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 อยู่ที่ 148,202.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.24% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่เจรจา FTA มูลค่า 73,790.23 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า 13.29%
และนำเข้าจากประเทศคู่เจรจา FTA 74,412.01 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.20% จากช่วงเวลาเดียวกัน
นางอรมน กล่าวว่า ประเทศคู่เจรจา FTA ที่ไทยส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สูงที่สุด 5 อันดับแรก คือ
(1) อาเซียน ส่งออก 32,820.15 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
(2) จีน ส่งออก 14,935.03 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.46%
สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และยางพารา
(3) ญี่ปุ่น ส่งออก 12,559.47 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.89%
สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องโทรสาร โทรศัพท์
(4) ออสเตรเลีย ส่งออก 5,526.12 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.32%
สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง
(5) อินเดีย ส่งออก 3,933 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.25%
สินค้าส่งออกหลัก คือ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ
ดังนั้น ในภาพรวมไทยส่งออกสินค้าไป 16 ประเทศ ที่ไทยมี FTA ด้วย ได้แก่ อาเซียน (9 ประเทศ) จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และอินเดีย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ยกเว้นเปรูที่ไทยส่งออกลดลง 6.42%
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยนำเข้าจากประเทศคู่เจรจา FTA สูงที่สุด 5 อันดับแรก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 คือ
(1) จีน นำเข้า 24,460.61 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.61%
โดยมีสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์
(2) อาเซียน นำเข้า 22,578.58 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.22%
สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
(3) ญี่ปุ่น นำเข้า 17,269.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.31%
สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์
(4) เกาหลีใต้ นำเข้า 4,528.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.42%
สินค้านำเข้าหลัก คือ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้า สินแร่โลหะ
(5) ออสเตรเลีย นำเข้า 2,569.73 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.91%
สินค้านำเข้าหลัก คือ น้ำมันดิบ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะ ถ่านหิน พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช
“ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ยังคงมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่ รวมถึงมีประเทศที่เริ่มหันมาใช้นโยบายลดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่การค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่ FTA 17 ประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และคิดเป็นสัดส่วน 59.7% ของการค้าไทยกับโลก” นางอรมน กล่าว