กรมการพัฒนาชุมชนเปิดงาน
“OTOP INTERTRADER THAILAND GRAND OPENNING 2016”
ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม 2559
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้เปิดงาน OTOP INTERTRADER THAILAND GRAND OPENNING 2016 ณ บริเวณเวทีกลาง ลานอเนกประสงค์ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
![งานเปิดตัว OTOP Trader Thailand](http://www.icon-m.com/images/column_1480785667/Otopintertrader-th_20161129_143518r.jpg)
บริษัท OTOP INTERTRADER THAILAND จำกัด หรือ OTOP TRADER จะเป็นช่องทางหนึ่งของการส่งเสริมการตลาดในการจำหน่ายสินค้า OTOP 1-3 ดาว มาพัฒนาและเปิดช่องทางให้ขายได้ ในอนาคต OTOP TRADER จะเป็นกลไกหลักในการส่งเสริมช่องทางการตลาดสินค้า OTOP ราชการจะเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนในบางเรื่องต่อไป
นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า
“การส่งเสริมในเรื่องของการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชน เป็นภารกิจหลักของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ซึ่งโครงการ OTOP ในปีงบประมาณ 2559 มียอดการจำหน่ายสูงถึง 125,000 ล้านบาท (หนึ่งแสนสองหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน) โดยการส่งเสริมสินค้า OTOP นั้น ต้องดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ การพัฒนาผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมช่องทางการตลาด”
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธาน บริษัท OTOP INTERTRADER THAILAND จำกัด เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดงานครั้งนี้ว่า
กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือ OTOP โดยดำเนินการมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.2544 ในการส่งเสริมให้ประชาชนนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชน การส่งเสริมช่องทางการตลาด ภายใต้การดูแลของกรมการพัฒนาชุมชนให้การสนับสนุน ซึ่งมีการดำเนินงานในหลายช่องทางและหลายกิจกรรม เช่น โครงการ OTOP Midyear, OTOP City, OTOP ภูมิภาค, OTOP สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน
OTOP Trader ก็เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมเรื่องการตลาดโดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้มีการคัดเลือกมาจากทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 คน แล้วอบรมให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในแนวทางที่จะต้องปฏิบัติ เพื่อตอบโจทย์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการพัฒนาสินค้า OTOP 1-3 ดาว ให้สามารถขายได้
การจัดงาน OTOP INTERTRADER THAILAND GRAND OPENNING 2016 ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันของ OTOP TRADER ทุกจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อแสดงให้เห็นถึงการรวมตัวกันของชาวโอทอปรากหญ้า (แฝก) เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอปอย่างเป็นรูปธรรม
2. เพื่อคัดสรรสินค้าโอทอปคุณภาพ เข้าสู่รายการสินค้าโอทอปมาตรฐานของระบบการจัดจำหน่ายในนามโอทอปเทรดเดอร์ไทยแลนด์ เพื่อนำเสนอขายต่อ
- ห้างสรรพสินค้าและโมเดิรน์เทรดในประเทศไทย
- บริษัทท่องเที่ยวที่มีศูนย์จำหน่ายสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ
- ตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ อาทิ กลุ่มว่านต๋า ยักษ์ใหญ่ห้างสรรพสินค้าในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะมีโครงการจัดงานแสดงสินค้าร่วมกับโอทอปเทรดเดอร์ไทยแลนด์ที่สิบสองปันนาทุกปี และโครงการศูนย์แสดงสินค้าโอทอปเพื่อนักท่องเที่ยว ในโครงการว่านต๋า สิบสองปันนา และที่อื่นๆ
- ส่งขายให้กลุ่มบริษัทต้าฉือ ผู้ประกอบการขายสินค้าระบบสมาชิกในจีน ที่มีสมาชิกหลายแสนคน
- เปิดศูนย์โอทอปเอาท์เลท ที่นครคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
- เพื่อนำรายการสินค้าเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั่วประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในนามโอทอป เทรดเดอร์ไทยแลนด์
- ร่วมกับกลุ่มจงต้าเหมิน ห้างสรรพสินค้าใน นครเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ในการสร้างระบบการค้าแบบ “โอ ทู โอ” ระบบหน้าร้านและระบบออนไลน์
- นำระบบสินค้าเข้าสู่ระบบเว็ปไซต์อาลีบาบาของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในนามโอทอป เทรดเดอร์ไทยแลนด์
3. สินค้าโอทอปที่ได้ถูกคัดเลือกในงานที่จะถูกนำเข้าสู่โครงการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์โอทอป ด้านบรรจุภัณฑ์ คุณภาพการผลิต การทำการโฆษณา ผ่านช่องรายการทีวี SME ชี้ช่องรวย การจดขอมาตรฐานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น อย. ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และของประเทศอื่นๆ เพื่อความพร้อมของสินค้าโอทอปสู่สากล
4. เพื่อสร้างแบรนด์ตราสินค้า “โอทอป” ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
5. รายการสินค้าโอทอปคัดสรรจะสามารถนำมาวางจำหน่ายได้ในร้านโอทอปมินิมาร์ท ร้านโอทอปไลฟ์สไตล์ ที่สร้างโดยเครือข่ายโอทอปเทรดเดอร์ โดยมีเป้าหมายปีละ 200 สาขา ซึ่งจะดำเนินการเปิดภายในปี 2560 เป็นต้นไป ด้วยการบริหารจัดการระบบตลาดยุคใหม่ ในนามบริษัท โอทอป เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
การจัดงานครั้งนี้ดำเนินการระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม 2559 โดยการจัดงานไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด และได้รับความช่วยเหลืออย่างดียิ่งจากกรมการพัฒนาชุมชน