สภาหอฯ ตอกย้ำความสำเร็จขยายผลการค้าไทย–ซาอุฯ
ผ่านงาน “Thai – Saudi Business Forum”
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกิดการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อมานายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำภาคเอกชนไทย เยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นการสานสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ หลังจากมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ
(6 ก.ค.65) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Thai – Saudi Business Forum” ขึ้น ณ ไอคอนสยาม เพื่อเป็นการขยายผลการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน เป็นนักธุรกิจจากซาอุดีอาระเบียประมาณ 100 คน
ซึ่งในช่วงเช้าได้รับเกียรติจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดงาน และเน้นย้ำว่า ไทยและซาอุดิอาระเบีย มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามแผนยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทย-ซาอุดีอาระเบีย โดยจะมีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงและผู้แทนในด้านอื่น ๆ ระหว่างกันให้มากขึ้น ภายใต้ผลประโยชน์ร่วมของสองประเทศ
Mr.Krayem S. Alenezi, Member the Board of Directors of the Riyadh Chamber ในฐานะผู้นำคณะนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในแผนการขับเคลื่อนและขยายการค้า การลงทุน ตามนโยบาย Saudi Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ลดการพึ่งพาน้ำมัน และซาอุดีอาระเบียยังมีแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในระดับกิกะโปรเจกต์โดยมุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงเข้ากับแผนการพัฒนาอีอีซีของไทย เพื่อยกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ของสองประเทศ
นอกจากนี้ หอการค้าริยาดยังได้ร่วมลงนาม MOU กับหอการค้าไทย โดยมีการลงนามข้อตกลงร่วมกันจำนวน 12 ฉบับ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการลงทุนระหว่างกัน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจของทั้งสองประเทศ
การเยือนไทยครั้งนี้ จะส่งผลต่อมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้นหลายหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกปุ๋ยและอุปกรณ์การเกษตรของฝ่ายซาอุฯ และนำไปสู่การหารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อปลดล็อคอุปสรรคและหาแนวทางผ่อนปรนมาตรการในด้านการส่งออก-นำเข้าในสินค้าต่างๆ อาทิ อาหารทะเลกระป๋อง เป็นต้น ซึ่งฝ่ายซาอุฯ ได้แสดงความสนใจระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าฮาลาล รวมถึงระบบการจัดการห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า
ธนาคารในประเทศไทยมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยปัจจุบันมีธนาคารในซาอุดิอาระเบีย 12 ธนาคารที่มีการติดต่อทำธุรกรรมกับไทย โดยสามารถทำธุรกรรมที่ครอบคลุมทั้งการนำเข้า การส่งออก และธุรกรรมอื่น ๆ เช่น การขอคืนภาษี Withholding Tax สำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งธนาคารในประเทศไทยมีการพัฒนาระบบ Smart Financial and Payment Infrastructure for Business (Prompt Biz) ซึ่งครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก
โดยประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับสกุลเงินหลักของโลก ทั้งสกุลดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินของกลุ่มประเทศ G7 รวมทั้งยังรับรองการทำธุรกรรมร่วมกับสกุลเงินเฉพาะอีกมากกว่า 130 สกุลเงิน นอกจากนี้ ยังมีระบบ National Digital Trade Platform (NDTP) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการค้าข้ามพรมแดนกับทุกประเทศทั่วโลก
สำหรับในช่วงบ่าย ได้รับเกียรติจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Thai–Saudi Business Matching โดยภายในงานมีการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีเอกชนจากหอการค้าริยาด จำนวน 70 บริษัท และเอกชนไทย กว่า 200 บริษัท ประกอบด้วยธุรกิจสาขาต่างๆ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ท่องเที่ยวและโรงแรม สิ่งทอ (เสื้อผ้า /แฟชั่น) สุขภาพ อาหารและเครื่องดื่ม เกษตรและประมง เทคโนโลยีและสารสนเทศ R&D โลจิสติกส์ เครื่องมืออุตสาหกรรม อุปกรณ์การเกษตร ทรัพยากรมนุษย์และการฝึกอบรม ด้านกฎหมาย ด้านพลังงานและเหมืองแร่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการเดินทางเยือนไทยของคณะหอการค้าริยาดครั้งนี้ เป็นเพียงการนำร่องเท่านั้น โดยภาครัฐบาลและเอกชนได้เตรียมการต้อนรับมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดิอาระเบีย ที่จะเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ภายในปีนี้ พร้อมคณะผู้แทนหอการค้าซาอุฯ ประมาณ 100 คน นอกจากนี้ ยังถือเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทุกมิติ ทั้งในด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป