'จุรินทร์' ชี้เป้า รัสเซียเป็นเหมืองทองสินค้าเกษตรไทย มุ่งขยายโอกาสการค้าและการลงทุน
วันที่ 10 กันยายน 2562 เวลา 17:30 น. ณ โรงแรมแชงกรี ลา กรุงเทพฯ: หลังการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับประเทศคู่ค้า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่มีการพบกันกับรัฐมนตรีจากประเทศรัสเซีย เป็นการพบกันระหว่างตนกับ นายแมกซิม โอเรียชกิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย นั้นได้หารือถึงความร่วมมือเพราะความสัมพันธ์ของไทยกับรัสเซียนั้นมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเมื่อปี 2561 มูลค่า 3,489 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.44 โดยประเทศไทยยังขาดดุลการค้ากับรัสเซีย 1,160 ล้านเหรียญสหรัฐ เราส่งออกไปรัสเซียส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์และชิ้นส่วนอัญมณีและเครื่องปรับอากาศ ข้าว และผลไม้ ส่วนรัสเซียได้ส่งออกสินค้ามายังประเทศไทยที่สำคัญ คือ น้ำมันดิบ ปุ๋ย ถ่านหิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม รัสเซียกับไทยมีเอ็มโอยูระหว่างกัน ด้านการค้าและเศรษฐกิจ เมื่อปี 2559 โดยขอบเขตของเอ็มโอยูระหว่างไทยกับรัสเซียนั้น เน้นเรื่องความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ในด้านสินค้าเน้นสินค้าไฮเท็คและนวัตกรรม รวมถึงด้านเกษตร ยกตัวอย่าง เช่น ยางพารา ข้าว สินค้าประมง เนื้อวัว ข้าวสาลี สินค้าเกษตรแปรรูปด้านการลงทุน และการบริการ
จากการหารือนั้น ในเรื่องของข้อตกลงเอ็มโอยูจะนำไปสู่การลงนามในเดือนพฤศจิกายน 2562 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายสำหรับประเทศไทย มั่นใจว่าถ้าจะมีการปรับปรุงโดยจะมุ่งเน้นในการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้า และเน้นการอำนวยความสะดวกเรื่องการค้าและการลงทุน อาจรวมไปถึงการท่องเที่ยวด้วย เพราะแต่ละปีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่ประเทศไทยค่อนข้างมาก แล้วจะผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางพารา และผลิตภัณฑ์อาหาร เพราะเขามีความต้องการจำนวนมาก ส่วนทางด้านอัญมณีและรถยนต์และชิ้นส่วนก็จะเพิ่มการส่งออกขึ้น และถ้าสามารถปรับปรุง เอ็มโอยูสำเร็จจะส่งผลไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางการค้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงของการเปิดประชุมระหว่างอาเซียน-รัสเซีย โดยมีนายแมกซิม โอเรียชกิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย เป็นตัวแทน โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวเปิดการประชุมต้อนรับรัฐมนตรีจากรัสเซียว่า รัสเซียเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอาเซียน และความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่ายก็มีพัฒนาการที่ดี โดยในปี 2561 อาเซียนและรัสเซียมีมูลค่าการค้าสูงถึง 19.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 18
เมื่อดูจากวาระการประชุมที่เราจะหารือกันในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างมาก ยกตัวอย่างเรื่องสำคัญ คือ แผนงานความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-รัสเซีย ภายหลังปี 2560 ซึ่งมีความก้าวหน้าที่เป็นประโยชน์ในหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเกษตร และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังมีพัฒนาการที่ดียิ่งในการขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาคระหว่างอาเซียนและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย โดยบันทึกความเข้าใจ MOU ระหว่างอาเซียนและ EEC และแผนงานความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายในสาขาต่างๆ จะช่วยขยายโอกาสให้นักธุรกิจและนักลงทุนของทั้งสองภูมิภาค และก่อให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม อาทิ การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดเล็กและขนาดย่อม (MSMEs)