โรลส์-รอยซ์ เปิดตัวคัลลิแนน ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35
28 พฤศจิกายน 2561, กรุงเทพฯ : ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 ครั้งนี้โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้นำเสนอ รถยนต์เอสยูวีระดับท็อปเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก: โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีคันแรกของโรลส์-รอยซ์ที่ตั้งชื่อตามเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่เคยได้ค้นพบ มีให้เลือกทั้งแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง โดยได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ 32.9 ล้านบาท ถือเป็นยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ โกสต์ แบล็ค แบดจ์ (จัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย) และเรธ ร่วมเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอสินค้าที่แข็งแกร่ง
โรลส์-รอยซ์แห่งตลาดรถยนต์เอสยูวี
โรลส์-รอยซ์เปิดตัวรถยนต์เอสยูวีที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo ในปีนี้ ด้วยเป้าหมายกลุ่มลูกค้าชาวไทยอายุน้อยที่มีรายได้สูง คัลลิแนนสามารถให้ความสะดวกสบายได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่บนถนนในกรุงเทพฯ เส้นทางที่ท้าทายในเชียงใหม่ หรือเดินทางไปรอยัล ภูเก็ต มารีน่า คัลลิแนนพร้อมจะพากลุ่มลูกค้าผู้กระหายการผจญภัย เดินทางไปพิชิตสุดขอบโลกด้วยความหรูหราเหนือระดับ
มร. เอียน แกรนท์ ผู้จัดการฝ่ายขาย สำหรับองค์กรธุรกิจทั่วโลก ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ให้ความเห็นในการเปิดตัวนี้ว่า
“คัลลิแนน น่าจะเป็นยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่ถูกตั้งตาคอยมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่รถยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ AWD (all-wheel drive) ประเภทยกตัวถังสูงได้รับความนิยมเนื่องจากประโยชน์ใช้สอยของรถ และตอนนี้ลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สามารถขับสบายไปได้ทุกที่ด้วยความหรูหราและมีสไตล์ถึงขีดสุดแล้ว นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนทุกคัน ยังเป็นรถยนต์สั่งผลิตพิเศษ ที่ใช้นวัตกรรมอันเป็นกรรมสิทธิ์ของแบรนด์ อย่าง ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา’ (Architecture of Luxury) ที่มอบระดับของสมรรถนะ ความสบาย และความประณีตที่เหนือกว่าให้แก่รถ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดรถยนต์เอสยูวี”
นายสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวว่า
“คัลลิแนน คือโรลส์-รอยซ์แห่งตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี และจะกลายเป็นยนตรกรรมระดับสูงสุดของตลาดรถยนต์ประเภทนี้ในประเทศไทย ซึ่งยานยนต์ที่แสนพิเศษคันนี้ จะนำพาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ให้คุณค่ากับกับเดินทางและอิสรภาพในการท่องเที่ยว ได้ลองมาสัมผัสโรลส์-รอยซ์ โดยคัลลิแนนตั้งเป้าดึงดูดกลุ่มลูกค้ารายได้สูงที่มีครอบครัว หรือคู่รักที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟและชอบกิจกรรมกลางแจ้ง”
พลังและภาพลักษณ์
ในการรังสรรค์รถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ทีมออกแบบได้ทำงานเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของเจ้าของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่ต้องการทั้งการออกแบบที่โดดเด่น สัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ของโรลส์-รอยซ์ที่ปรากฏทั้งภายในและภายนอกตัวรถ พร้อมกับความหรูหราสง่างามที่ไร้ข้อจำกัด คอนเซ็ปท์ในการออกแบบครั้งนี้ คือการสร้างโครงหลังคารถที่ไม่เหมือนใคร ราวกับท่าทางอันทรงอำนาจของนักรบ สื่อถึงความแข็งแกร่งและพละกำลัง โดยในขณะเดียวกันก็ทำให้การก้าวเข้าออกห้องผู้โดยสารด้านหลังเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
องค์ประกอบหลักอื่นๆ เช่น ไฟรถและกระจังหน้านั้น ถูกจัดวางไว้อย่างกลมกลืนไปกับด้านนอกของตัวรถ ในขณะที่เส้นอันคมชัดทั้งในแนวตั้งและแนวราบสร้างภาพลักษณ์ที่ดูทรงพลัง ประกอบกับคิ้วของนักรบที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งเกิดจากลายเส้นเฉียบคมพาดผ่านบนโครงกระจังหน้ารถและไฟเดย์ไลท์ (Daytime Running Lights) การออกแบบทั้งหมดนี้ส่งให้ส่วนหน้าของรถยนต์คัลลิแนนดูมีความแข็งแกร่งทนทาน
จากด้านข้าง วัตถุประสงค์หลักของรถยนต์คัลลิแนนถูกสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านโครงร่างของฝากระโปรงรถยนต์ที่มีความยาวตามแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งตำแหน่งของฝากระโปรงรถถูกออกแบบให้อยู่สูงกว่าปีกของรถ เพื่อสื่อถึงความแข็งแรง
คัลลิแนน เป็นรถยนต์ประเภทยกตัวถังสูง ที่มีความสูง 1,836 มิลลิเมตร โดยความสูงนี้ จะเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นจากสัดส่วนของกระจกต่อโลหะเมื่อมองจากด้านข้าง จากบริเวณเหนือเสา B (B-pillar) ไปเล็กน้อย แนวหลังคารถจะเริ่มพุ่งและลาดลงสู่กระจกหลัง มาบรรจบกับฝากระโปรงท้ายที่โค้งยื่นออกมารับกันอย่างลงตัว และทำให้หวนคิดถึงโรลส์-รอยซ์ ดีแบ็ค (D-Back) ในช่วงปีค.ศ. 1930 หนึ่งในรถยนต์ไม่กี่รุ่นสุดท้ายของแบรนด์ที่ยังคงมีชั้นเก็บสัมภาระภายนอกตัวรถ
ดุมล้อขนาด 22 นิ้วสร้างความสมดุลที่สวยงามให้แก่คัลลิแนน ในขณะที่ความลุ่มลึกของมุมมองด้านข้างของตัวรถ เกิดจากโลหะแท้ ดังเช่นหอกของนักรบชาวแซกซอน ที่อยู่เหนือขอบด้านล่างประตูรถ สร้างมิติและความน่าเกรงขามให้กับด้านข้างของรถได้อย่างงดงาม
สำหรับด้านหลัง แนวทางในการออกแบบไฟหลังยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย ด้วยช่องขนาดกะทัดรัด 2 ช่อง ซึ่งเป็นที่ตั้งของไฟหลังทั้งหมด และตรงกลางยังถูกตกแต่งอีกเล็กน้อยด้วยแถบอัญมณี จุดสุดท้ายที่สะท้อนถึงฟังก์ชันในการใช้งาน คือท่อไอเสียโลหะและแผ่นกันกระแทก (skid plate) ซึ่งสะท้อนถึงพลังและศักยภาพของคัลลิแนน
การออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้งานจริง
สีแดงแมกมา (Magma) อันสดใสภายนอกตัวรถของคัลลิแนน ซึ่งถูกจัดแสดงครั้งแรกในไทยนี้ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างคาแรคเตอร์ของความสนุกสนานและใช้งานได้จริงให้กับยนตรกรรมรุ่นใหม่นี้ คัลลิแนนมาพร้อมกับตัวเลือกเบาะนั่งยาวแบบเลานจ์ด้านหลัง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า ด้วยพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 3 คนด้านหลัง ตัวเลือกนี้จึงเหมาะกับครอบครัวชาวไทย นอกจากนั้นเบาะหลังยังสามารถพับด้วยไฟฟ้าได้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ หรือพับลงแบบ 2/3 หรือ 1/3 ตามความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งาน แม้จะมีสัมภาระ ผู้โดยสารด้านหลังยังคงสามารถเดินทางได้อย่างสบาย หรือจะใช้พื้นที่ด้านหลังเบาะเป็นโต๊ะชั่วคราวในการวางข้าวของมีค่าส่วนตัวก็ได้
ส่วนด้านหลัง หรือท้ายรถ มอบพื้นที่ขนาดความจุมาตรฐาน 560 ลิตร และเพิ่มขึ้นถึง 600 ลิตรเมื่อถอดถาดวางของด้านหลัง (parcel shelf) ออก หากพับเก็บเบาะนั่งด้านหลังทั้งหมด คัลลิแนนจะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระยาวถึง 2,245 มิลลิเมตร และพื้นที่ความจุ 1,930 ลิตร นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระใหญ่ที่สุดในตลาดรถยนต์ลักซ์ชัวรีเอสยูวี
การปรับแต่งเพื่อความหรูหราขั้นสุด
ภายในรถยนต์คัลลิแนนแบบ 4 ที่นั่ง ห้องโดยสารด้านหลังถูกติดตั้งด้วยเบาะนั่งแบบแยก นับเป็นความหรูหราระดับสูงสุดในตลาดรถยนต์เอสยูวี ซึ่งเบาะนั่งด้านหลังแบบแยกทั้งสองจะถูกกั้นด้วยคอนโซลกลางที่มีพื้นที่สำหรับเครื่องดื่ม แก้ววิสกี้ ขวดวิสกี้ แก้วแชมเปญ และตู้เย็น ส่วนเบาะนั่งสามารถปรับได้หลายระดับเพื่อความสบายและผ่อนคลายสูงสุดแก่ผู้โดยสารด้านหลัง ความมีรสนิยมในแฟชั่นถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจนภายในห้องโดยสาร ผ่านส่วนบนของแผงคอนโซลหน้ารถที่ถูกตกแต่งด้วยหนัง ‘Box Grain’ สีดำที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นวัสดุหนังที่ทนทานและกันน้ำ แบบเดียวกับหนังที่ถูกใช้ในการทำกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือแบรนด์ไฮเอนของอิตาลี
ในขณะเดียวกัน เบาะนั่งของคัลลิแนนมีลักษณะที่เด่นชัดและให้ความรู้สึกมาดมั่น แสดงถึงคุณภาพและความเชี่ยวชาญของโรลส์-รอยซ์ ด้วยการออกแบบให้เหมาะสมกับความสบายและเปี่ยมไปด้วยพลังของรถยนต์คัลลิแนน เบาะนั่งถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ทันสมัยด้วยลายเส้นรูปทรงเกือกม้า เน้นย้ำถึงความสบายในส่วนโค้งเว้าของที่นั่ง นอกจากนั้น เบาะรุ่นใหม่นี้ยังสะท้อนถึงฝีมือด้านเครื่องหนังของแบรนด์ โดยพนักพิงทั้งแผงถูกหุ้มด้วยหนังเพียงชิ้นเดียว และนำมาขึ้นรูปให้มีพื้นผิวแบบสามมิติ
แผงกั้นกระจกอันมีเอกลักษณ์แบ่งแยกห้องโดยสารออกจากส่วนบรรทุกสัมภาระ ช่วยลดระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารรถยนต์เอสยูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยป้องกันผู้โดยสารในรถยนต์คัลลิแนนจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แม้ตอนที่ประตูส่วนบรรทุกสัมภาระด้านหลังถูกเปิดออก
เทคโนโลยีล้ำสมัย
คัลลิแนน เป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดในโลก เมื่อถูกสั่งจากกุญแจที่สั่งทำพิเศษ ตัวรถจะลดระดับความสูงลง 40 มิลลิเมตร เพื่อให้การเข้าไปในห้องโดยสารเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ผ่านประตูรถระบบไฟฟ้าที่มีมือจับระบบสัมผัส เปิดกว้างต้อนรับผู้โดยสารสู่ภายในตัวรถคัลลิแนนที่มีหลังคาเป็นกระจกแบบพาโนรามา พร้อมด้วยระบบเสียงสั่งผลิต 18 ช่อง 18 ลำโพงเกรดสตูดิโอ เบาะนั่งระบายอากาศพร้อมระบบนวด รวมไปถึงโต๊ะปิคนิคอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรลส์-รอยซ์ ที่ตอกย้ำถึงความหรูหราภายในตัวรถ ผู้โดยสารคัลลิแนนสามารถชาร์จเครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสารได้ตลอดเวลาด้วยพอร์ต USB ถึง 5 ช่องที่ถูกติดตั้งอย่างมีชั้นเชิงในห้องโดยสาร ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือยังสามารถถูกชาร์จแบบไร้สายได้ในส่วนหน้าของห้องโดยสาร
สำหรับผู้ขับขี่ แผงคอนโซลหลักเป็นที่ตั้งของปุ่มควบคุมที่มีตราสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี, ปุ่ม ‘ออฟโรด’, ปุ่มควบคุมการลงเนิน (Hill Descent Control) และระบบช่วงล่างที่ปรับความสูงได้ (Air Suspension Height Adjustment) นอกจากนั้น คัลลิแนนยังมีระบบความปลอดภัยที่หาที่เปรียบไม่ได้ เช่น ไนท์วิชันและวิชันแอสซิสท์ (Night Vision and Vision Assist) ที่รวมไปถึงการแจ้งเตือนสัตว์ป่าและคนเดินเท้าทั้งกลางวันและกลางคืน; ผู้ช่วยความตื่นตัว (Alertness Assistant) ระบบกล้อง 4 ตัว ที่ให้ทัศนวิสัยและมุมมองแบบรอบทิศทาง รวมไปถึงภาพมุมสูง; ระบบควบคุมแอคทีฟ ครูซ (Active Cruise Control); แจ้งเตือนการปะทะ (Collision Warning); แจ้งเตือนการจราจรโดยรอบ (Cross-Traffic Warning); แจ้งเตือนการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (Lane Departure and Lane Change Warning); จอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าความละเอียดสูงขนาด 7x3; WiFi และระบบนำทางและระบบเครื่องเสียงรุ่นล่าสุด
วิศวกรรมอันไร้ที่ติ
เราจะสามารถสร้างรถยนต์เอสยูวีให้เป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมได้อย่างไร ประการแรก คัลลิแนนถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้โครงอลูมิเนียมทั้งหมด อันเป็นกรรมสิทธิ์ของโรลส์-รอยซ์ เรียกว่า ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา’ (Architecture of Luxury) ที่มอบความแข็งแกร่งให้ตัวรถอย่างน่าอัศจรรย์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในระดับที่ดีที่สุดเมื่อขับขี่บนทางที่สมบุกสมบัน โดยในขณะเดียวกันก็มอบสัมผัสของ ‘การขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ’ (Magic Carpet Ride) ที่มีชื่อเสียงของโรลส์-รอยซ์
นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มระบบกันสะเทือน (Air suspension) 4 มุมรุ่นล่าสุด, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีความซับซ้อน, ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ, เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ทวินเทอร์โบ V12 ขนาด 6.75 ลิตรที่ปรับปรุงใหม่ (แรงบิด 850 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบต่อนาที) และเกียร์ 8 สปีดที่นุ่มนวลที่สุดในโลก สำหรับการขับขี่ออฟโรด เมื่อคัลลิแนนตรวจพบการสูญเสียการควบคุม โช้คอัพไฟฟ้าจะใช้ระบบอัดลมในการช่วยควบคุมล้อรถ เพื่อให้มั่นใจว่าล้อทุกล้อแตะพื้นอย่างสม่ำเสมอและแรงบิดถูกส่งไปที่ล้อทุกล้อได้มากที่สุด
การขับสบาย...ไปทุกที่นั้น เริ่มต้นจากปุ่มตัวเลือกหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันภายในโรลส์-รอยซ์ ว่าเป็นตัวเลือก ‘ทุกที่ (Everywhere)’ นำเสนอโปรแกรมแตกต่างกัน 4 โปรแกรมให้เลือกสรรภายใต้โหมดการขับขี่ออฟโรด นอกจากนั้น ด้วยความสูงจากพื้นรถที่มากที่สุด คัลลิแนนยังมีความสามารถในการลุยน้ำได้ลึกที่สุดที่ 540 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรีเอสยูวีคันอื่น แต่ไม่ว่าจะลุยออฟโรดแค่ไหน ผู้โดยสารของคัลลิแนนสามารถก้าวออกจากรถได้โดยไม่ต้องกังวลว่าขากางเกงจะเปื้อน เนื่องจากประตูบานหน้าและหลังถูกออกแบบมาให้ห่อหุ้มธรณีประตูของรถ ทำให้มั่นใจได้ว่าฝุ่นผงจะถูกกันให้อยู่แต่ภายนอกประตูรถเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์นี้บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์
ออกแบบชีวิต ด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
การเดินทางไปยังสถานที่อันห่างไกล เป็นเพียงปฐมบทของการผจญภัยไปกับโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนเท่านั้น ความสนุกสนานอีกมากมายและความเพลินเพลินในรูปแบบของโมดูลสันทนาการของโรลส์-รอยซ์ยังรออยู่
ตัวอย่างเช่น: หลังจากเลือกการเดินทาง เจ้าของรถสามารถดาวน์โหลดโมดูลโดรนลงในคัลลิแนน เลือกโมดูลการแข่งโดรน (Drone Racing Module) จากตัวเลือกโมดูลสันทนาการอื่นๆ มากมาย ที่เจ้าของรถยนต์ได้มอบหมายให้โรลส์-รอยซ์ติดตั้งให้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสันทนาการของเขาหรือเธอ
ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาแบบฟลายฟิชชิง การถ่ายรูป ปีนเขา เล่นสโนว์บอร์ด พาราเซลลิง ไคท์บอร์ดดิง การดิ่งพสุธาด้วย base jumping สไลด์บนภูเขาไฟ หรือแค่นั่งพักเพื่อดื่มด่ำชมวิวธรรมชาติ ทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้ด้วยแผนก Rolls-Royce Bespoke Collective และโมดูลสันทนาการทุกอันสามารถเสียบและเชื่อมต่อเข้ากับรถยนต์คัลลิแนนได้อย่างง่ายดาย พร้อมลิ้นชักอัตโนมัติที่มีอุปกรณ์และส่วนประกอบเฉพาะตามความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์คัลลิแนนแต่ละคัน และเมื่อไหร่ที่เจ้าของรถต้องการ สิ่งเหล่านี้ก็พร้อมอยู่ตรงหน้าเสมอ
..............................
ภาพรวมของ คัลลิแนน
• รถยนต์ที่เป็นที่รอคอยที่สุดแห่งปี 2018 และอาจจะเป็นรถ โรลส์-รอยซ์ ที่เป็นที่รอคอยที่สุดในประวัติการณ์
• ชื่อคัลลิแนนมีที่มาจากเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่โลกเคยค้นพบ ซึ่งปัจจุบันประดับอยู่บนมงกุฎเพชรของราชวงศ์อังกฤษ
• รถยนต์อเนกประสงค์ชนิดยกตัวถังสูงที่ทำให้แนวคิดในด้านการขับขี่ออฟโรดอย่างหรูหราเป็นรูปธรรมขึ้นมาเป็นครั้งแรก การเดินทางอย่างหรูหราคือการ ขับสบาย... ไปทุกที่
• การออกแบบที่ร่วมสมัยและมากประโยชน์การใช้งานทำให้ คัลลิแนน ได้ถูกยกระดับเป็นตำนานเมื่อเทียบกับรถอเนกประสงค์ที่นับวันจะมีแต่การออกแบบอย่างจืดชืดไร้ความโดดเด่น
• รถอเนกประสงค์คันแรกที่ออกแบบด้วยระบบ "Three-Box" ทำให้คัลลิแนนมีผนังที่แยกห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระออกจากกันอย่างเป็นอิสระ
• คัลลิแนนเป็นรถยนต์ที่มีประโยชน์ใช้สอยมากที่สุดของโรลส์-รอยซ์ เหมาะกับครอบครัว ขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลิน และหรูหราอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในตลาดรถยนต์เอสยูวีในปัจจุบัน
• เป็นรถ โรลส์-รอยซ์ รุ่นที่สองที่ใช้โครงสร้างอลูมิเนียมทั้งหมดซึ่งเป็น 'สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury)' คัลลิแนน คือรถยนต์อเนกประสงค์หนึ่งเดียวในโลกที่มีทั้งความหรูหราอย่างสมบูรณ์แบบและใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด
• ผ่านการทดสอบความทนทานในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก คัลลิแนน คือรถยนต์ออฟโรดสมรรถภาพสูง ซึ่งเกิดจากแนวคิดของ โรลส์-รอยซ์ ในการพัฒนา 'การขับเคลื่อนอย่างพรมวิเศษ (Magic Carper Ride)' เพื่อความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบออฟโรด โดยไม่สูญเสียสมรรถนะการขับขี่บนท้องถนน
• คัลลิแนน มีฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นตามความเรียกร้องของลูกค้า เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งรวมถึงที่นั่งสวีทชมวิว (Viewing Suite) และโมดูลสันทนาการ (Recreation Module)
• เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 ขนาด 6.75 ลิตร ซึ่งให้แรงบิดถึง 563bhp/420kW และ 850Nm/627lb ft บวกกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อและพวงมาลัยบังคับทุกล้อทำให้สามารถพิชิตได้ทุกเส้นทาง
• ประวัติอันยาวนานในด้านการบุกเบิกและการผจญภัยผ่านเส้นทางทุกรูปแบบอย่างประสบความสำเร็จด้วยความหรูหราของยานยนต์ที่แข็งแกร่ง คล่องตัว เงียบ และวางใจได้ "รถโรลส์-รอยซ์ ในทะเลทรายมีค่าเหนือกว่าทับทิม" - T.E. Lawrence
...........................
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด