ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ค้นหาบทความ / Article Search

dot


MotorShow2025-BIMS46th
UranusV-Reflection
WorkshopPhotography
Thainess Capital
Comme c’est bon
nawarat
IconM
THE THAI REAL ESTATE ASSOCIATION
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
AREA
ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
สมาคมการผังเมืองไทย
icons
Realist
Smart Living
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สมาคมธนาคารไทย
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
ธนาคารแห่งประเทศไทย
TAT
ATTA
Tourism Council of Thailand (TCT)
The Royal Automobile Association of Thailand under Royal Patronage
The Thailand Automotive Institute (TAI)
Motor Expo 2024
The45thBIMS2024
BIMS2023
MotorExpo2023
MotorExpo2022
BIMS2022
Motor Show 2019
MotorExpo2020
MotorExpo2019
MotorExpo2018
Food4Change
มูลนิธิสุขภาพไทย
Thaicityfarm
Thai Green Market
Center Market
Sustainable Agriculture
Agri-nature Foundation
Sustainable Agriculture Foundation (Thailand)
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมหม่อนไหม
กรมส่งเสริมอุสาหกรรม
Thai Textile
SACICT
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
มูลนิธิก้าวไกลในเอเชีย
IconM
IconM News : G+
Oknation-lumnamsiam
Tarot Life Coach


แนวคิดปรับปรุงการสัญจรบริเวณซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน

Urban Design by Guru : 

 

แนวคิดปรับปรุงการสัญจรบริเวณซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน

โดย ฉันทฤทธิ์ วิโรจน์ศิริ

แนวคิดปรับปรุงการสัญจรบริเวณซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน


บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อต้นปี 2554 และเคยนำเสนอมาแล้วก่อนหน้านั้นสักสองปีบนหน้า Soi Aree, Paholyothin Road : A Case Study for Bicycle Community

เอามาปัดฝุ่นเสนอให้ลองช่วยกันดูเป็นตัวอย่างของการจัดระบบการใช้จักรยานในย่านของเมืองชั้นใน ที่ปัจจุบันถนนถูกครอบครองโดยรถยนต์ ถ้าสามารถสร้างให้เกิดเป็นย่านของการใช้จักรยาน (Bicycle Neighborhood) ที่ค่อยๆขยายโครงข่ายออกไปครอบคลุมพื้นที่กว้างมากขึ้น ต่อไปเราก็อาจเห็นการใช้จักรยานเกิดขึ้นได้ในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแห่งนี้

ขออนุญาต tag ไปยังหลายๆท่านที่ผมบังเอิญรู้มาว่ามีหรือเคยมีนิวาสถานหรือมีสถานที่ทำงานอยู่แถบบริเวณนี้ และอาจสนใจช่วยกันสนับสนุนออกความคิดแก้ปัญหาของเมืองในบริเวณนี้ได้บ้าง เพราะบ้านเมืองนี้เป็นของเราทุกคน อย่างไรก็ตามหากเป็นการรบกวนต่อผู้ใด ผมก็ขออภัยไว้ในที่นี้ด้วย

>>>>>> 

 

 

บริเวณซอยอารีย์ (พหลโยธินซอย 7) ถนนพหลโยธิน มีการพัฒนาอย่างค่อนข้างรวดเร็ว และเกิดปัญหาการจราจรคับคั่งที่ตามมาจากกิจกรรมใหม่ๆที่เพิ่มขึ้นอย่าง คอนโดราคาแพง ร้านอาหาร Hip สำหรับยัปปี้หนุ่มสาว ที่บริเวณปลายซอยต่อไปยังถนนพระรามที่ 6 ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายหน่วย จุดที่โกลาหลที่สุดคือบริเวณปากซอยอารีย์ (บริเวณปัญหา 1) ที่มีสถานีรถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ที่มีรถตู้และแท็กซี่มาคอยดักผู้โดยสาร คิวมอเตอร์ไซค์และสามล้อตุ๊กๆ และทางเท้าแคบๆที่กลายเป็นชอปปิ้งสตรีท ผสมกับพฤติกรรมผู้ใช้รถและคู่รักเดินถนนบางคนที่เห็นตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเดินจูงมือขวางถนนโดยไม่สนใจใครอื่น และตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่แค่พอผ่านไปวันหนึ่งๆ อาจเพราะเกรงรัศมียานพาหนะราคาแพงที่กรีดกรายผ่านและบางทีจอดรอซื้อของอย่างไม่สนใจรถอื่นที่ติดกันเป็นแถวอยู่ข้างหลัง การก่อสร้างที่มีมาตลอดในซอยนี้ก็มีส่วนทำให้การจราจรเป็นจลาจล

>>>>>> 

 

 

ที่แยกปากซอยอารีย์ต่อกับถนนพหลโยธินเป็นจุดจำกัดการเลี้ยวเข้าโดยในช่วงรถมากต้องไปเลี้ยวกลับรถที่หน้าธนาคารเอ็กซิม และไม่ให้เลี้ยวขวาออกต้องไปกลับรถที่หน้าธนาคารกสิกรไทย ซึ่งดูคล้ายกับไปเน้นบริการให้ธนาคารซึ่งคงรวยเลยมีรถเลี้ยวเข้าออกมากกว่า ทั้งที่จุดกลับรถอีกที่หนึ่งที่แยกซอยสายลมก็อยู่ถัดไปไม่ไกล

>>>>>>>>>>>> 

 

 

 

 

ที่กลางซอยอารีย์มีแยกอารีย์ 4 ไปทางเหนือมีทางออกไปต่อกับซอยพหลโยธิน 9 และ 11 ซึ่งสามารถลัดออกไปยังถนนพระรามที่ 6 และถนนประดิพัทธ์ได้ แต่คนที่เข้ามาในซอยอารีย์นี้มักไม่ค่อยชอบใช้ ชอบออกมาหาความวุ่นวายคับคั่งตรงปากซอยอารีย์มากกว่า ซอยอารีย์ 4 ทางทิศใต้มีเขตทางกว้างที่สุดเทียบกับซอยอื่น แต่ถูกปิดปลายไว้ด้วยคอนโดมีเนียมที่ค่อนข้างถือตัว

ซอยอารีย์นี้มีทางแยก 1, 2, 3 และ 5 ต่อเชื่อมไปยังซอยอารีย์สัมพันธ์ที่ทำให้ผู้ไม่คุ้นเคยพื้นที่มักต้องหลงเข้ามาติดกับจราจรโดยไม่จำเป็นอยู่เสมอ ซอยนี้มีบริเวณปัญหาอยู่ที่ช่วงถนนแคบลงที่สุดรั้วสถานที่ราชการโอ่อ่าของกรมประชาสัมพันธ์ ออกมาถึงถนนพหลโยธิน (บริเวณปัญหาที่ 2) ในเวลาเร่งด่วนจะพบรถจำนวนไม่น้อยจอดพ่นควันพิษใส่กันรอเวลาเป็นอิสระออกไปจากซอกแคบนี้ ในภาพเส้นสีแดงแสดงการเดินรถสองทาง และสีน้ำเงินแสดงการเดินรถทางเดียวในซอย 1,2,3 และ 5 ยกเว้นซอย 4 ซึ่งเป็นซอยตัน ซอยอารีย์สัมพันธ์นี้ยังเปลี่ยนชื่อเป็นซอยราชครูเมื่อมาชนกับถนนพหลโยธิน และมีชื่อเป็นพระรามที่ 6 ซอย 30 จากด้านถนนพระรามที่ 6 ซอยนี้จึงเป็นซอยที่มี 3 ชื่อไว้ล่อให้คนหลง เพราะไม่มีซอยอารีย์สัมพันธ์จากถนนพหลโยธิน และจากถนนพระรามที่ 6 มีชื่อ”อารีย์สัมพันธ์”เล็กๆแทบมองไม่เห็นแอบอยู่ใต้ป้ายถนนพระรามที่ 6 ซอย 30

>>>>>>>> 

 

ทางเท้าด้านทิศใต้ของซอยอารีย์นี้ค่อนข้างแคบและมีอุปสรรคหลายอย่างติดตั้งไว้เกะกะกีดขวางการสัญจร เช่นตู้ไปรษณีย์ขนาดใหญ่ที่ปากแยกซอย 4 ซึ่งในสภาวะการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันน่าจะใช้เก็บจดหมายที่มีคนส่งถึงกันได้ทั้งปี ตู้โทรศัพท์ที่เสียอยู่ตลอดเวลา และการยกขอบบริเวณระยะร่นของอาคารให้สูงกว่าทางเท้าข้างเคียง

>>>>>>>>>> 

 

อีกบริเวณปัญหาที่ 3 อยู่ที่ปลายซอยอารีย์ซึ่งผมอนุมานว่าสิ้นสุดลงแถวหน้าพื้นที่ส่วนราชการอันได้แก่ กรมสรรพากรที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมได้อย่างน่าชื่นชม สมกับเป็นผู้จัดเก็บรายได้ให้แก่รัฐบาล ต่อไปเป็นกระทรวงทรัพยากรฯและหน่วยงานที่วางตัวอยู่อย่างค่อนข้างถ่อมตัวคล้ายเกรงใจผู้หาเงินมาใส่กระเป๋าของชาติ และกรมประชาสัมพันธ์ผู้ซึ่งดูจะชอบการโฆษณาไปยังที่ไกลในราชอาณาจักร แต่ไม่โปรดการวิสาสะสุงสิงกับประชาชนที่ผ่านไปมาด้วยการยกขอบกั้นรั้วบริเวณไว้เป็นเอกเทศ บริเวณปัญหาที่ 3 นี้ผมเคยถ่ายภาพมาให้ดูกันไว้ในอัลบั้ม “BKK Sidewalk”

http://www.facebook.com/media/set/?set=a.139811009392769.15066.100000916116636&l=60d0dc26c0

>>>>>>>>>>>> 


ในภาพนี้ เป็นข้อเสนอแนะปรับเส้นทางการเดินรถเพียงเล็กน้อยที่อาจช่วยให้บริเวณนี้ไม่โกลาหลวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ ทั้งอาจดูศิวิไลซ์ขึ้นด้วยที่บริเวณปากซอยอารีย์ ดังที่อาจารย์เทิดเกียรติ ศักดิ์คำดวงก็ได้เคยเสนอให้ขอแบ่งพื้นที่ผิวจราจรของถนนมาให้แก่กิจกรรมคนเดินและการเปลี่ยน Traffic Modal รวมทั้งแผงลอยธุรกิจการค้าของพ่อค้าแม่ขาย (ที่ส่วนใหญ่น่าจะรวยมากกว่าจน) โดยจัดเดินรถทางเดียวบริเวณปากซอยพหลโยธิน 5 และ 7 และผันรถจากถนนพระรามที่ 6 ที่จะไปพหลโยธินให้ไปออกทางซอยอารีย์ หรือแบ่งไปออกซอยพหลโยธิน 9 และ 11 ซึ่งสามารถเป็นทางเลือกให้รถที่จะเข้ามาในบริเวณซอยอารีย์อีกด้วย รถที่ไม่ต้องสวนกันบนทางแคบของซอยอารีสัมพันธ์ต่อราชครูก็จะเดินได้สะดวกขึ้น รถที่จะมาซอยอารีย์จากสะพานควายก็มาเลี้ยวเข้าที่แยกราชครูนี้เช่นเดียวกับที่มาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณปากซอยอารีย์ (พหลโยธิน 7) มาจนถึงซอยอารีย์ 3 ที่มีรถเดินทางเดียวก็จะสามารถจัดให้รถจอดฝั่งด้านเหนือของถนน และใช้ที่จอดรถเพิ่มเติมในถนนซอย ด้านทิศใต้ของซอยอารีย์จะสามารถขยายพื้นที่กิจกรรมให้คนเดินจับจ่ายซื้อของออกมาได้อีกประมาณ 2-3 เมตร และยังสามารถเชื่อมเข้ามาในถนนซอยและที่ว่างข้างอาคารปียวรรณที่ถัดออกมาเป็นป้ายรถประจำทางและบันไดขึ้น-ลงรถไฟฟ้า

>>>>>>>>>>> 

 

 

ย่านซอยอารีย์เป็นพื้นที่ขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 กิโลเมตร จากด้านทิศตะวันออกคือแนวถนนพหลโยธิน ไปทางทิศตะวันตกข้ามถนนพระราม 6ไปจรดแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือและรถไฟฟ้าสายสีแดง ด้านทิศใต้จากซอยพหลโยธิน 5 ไปถึงถนนประดิพัทธ์ บริเวณนี้เป็นพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างแขวงสามเสนในและแขวงถนนนครไชยศรี เขตพญาไท

บริเวณปากซอยอารีย์ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีลักษณะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรม และมีความคับคั่งมากกว่าส่วนอื่น

ตำแหน่งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงยังไม่ได้รับการกำหนดชัดเจนนัก(ยังอยู่ระหว่างสืบค้นข้อมูล) แต่เห็นได้ว่าหากเกิดขึ้นก็อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อย่านที่อยู่อาศัยริมทางรถไฟ ซึ่งควรพิจารณาความเชื่อมโยงเข้ามาสู่ย่านซอยอารีย์ โดยข้ามผ่านถนนพระราม 6 ซึ่งมีทางด่วนพาดอยู่เหนือแนวคลองประปา

>>>>>>>> 

 

 

ย่านซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมืองที่เกิดขึ้นเนื่องจากการตัดถนนพหลโยธินออกไปสู่ภูมิภาคด้านทิศเหนือของกรุงเทพฯ ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ต่อมาเมื่อเมืองมีการขยายตัวมากขึ้น บริเวณนี้ได้กลายมาเป็นย่านที่มีความเจริญมากขึ้นจนนับเป็นย่านกลางเมืองในระยะเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการหลายแห่งคือ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสรรพากรและกรมประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานเขตพญาไท สำนักงานคณะกรรมการการสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานธนาคารและห้างร้านธุรกิจต่างๆ โรงพยาบาลและโรงเรียน ฯลฯ การสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวทำให้เกิดคอนโดมีเนียมขึ้นหลายอาคารในบริเวณ ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการขยายเส้นทางด้านทิศเหนือออกไปถึงคูคต ลำลูกกา ส่วนด้านทิศใต้ขณะนี้ไปได้ถึงบางปูแล้ว

ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงผ่านทางด้านทิศตะวันตกซึ่งจะไปเชื่อมกับรถแอร์พอร์ทลิงค์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ และต่อไปในระยะยาวจะไปได้ถึงมหาชัย สมุทรสาคร

แม้บริเวณนี้จะดูคับคั่งแออัดในเวลากลางวันช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ยต่อตารางกิโลเมตรที่คำนวณได้จากทะเบียนสำมะโนครัวยังมีอยู่เพียงประมาณ 10,200 คน เท่านั้น ซึ่งแสดงว่าข้าราชการและพนักงานจำนวนมากของหลายหน่วยงานและธุรกิจในบริเวณนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เดินทาง (Commuters) เข้ามาสู่พื้นที่ รวมทั้งการเดินทางตัดผ่านเข้าออกระหว่างถนนพระราม 6 และถนนพหลโยธิน

>>>>>>>> 


การให้รถเดินทางเดียวบนซอยอารีย์จากปากซอยแยกที่ 3 มาถึงปากซอยที่ตัดกับถนนพหลโยธิน นอกจากจะเพิ่มที่จอดรถที่เป็นระเบียบมากขึ้นทางด้านทิศเหนือของถนน ยังอำนวยให้เกิดทางจักรยานที่ใช้การทาสีพื้นถนนให้แยกจากผิวจราจรของรถยนต์ แต่ในกรณีจำเป็น เช่น เกิดมีรถเสียขวางช่องจราจร ก็ยังอาจยอมให้รถเข้ามาใช้พื้นที่ได้บ้างด้วยความระมัดระวัง เพราะรถในซอยนี้ปัจจุบันก็ติดขัดกันอยู่เป็นประจำ ไม่สามารถวิ่งเร็วเกินกว่า 15-20 กม./ชม. ได้อยู่แล้ว เวลามีรถเข้าออกจากที่จอดโดยขนานกับทางเท้าก็จะติดกันโกลาหลไปทั้งซอย ผิวพื้นถัดไปที่ขยายจากทางเท้าแสนแคบของเดิมก็จะช่วยให้พ่อค้าแม่ขายมีพื้นที่ประกอบการค้ามากขึ้น โดยคนเดินถนนก็จะมีที่เดินได้สะดวกขึ้นไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันแบบปัจจุบัน และบนพื้นที่ส่วนนี้สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาต้องถูกตัดยอดเพราะสูงขึ้นไปชนกับสายไฟฟ้า ซึ่งในภาพแสดงเป็นต้น Eucalyptus citriodora ซึ่งโตได้เร็ว ทนแล้ง และมีรูปทรงสูงชะลูด กิ่งก้านโปร่ง หรืออาจใช้ต้นยางนาซึ่งโตได้เร็วพอสมควรและจะกลายเป็นแนวภูมิทัศน์ถนนที่ร่มรื่นสง่างาม อีกตัวเลือกหนึ่งคือต้นประดู่ ด้านทิศเหนือของถนนซึ่งทางเท้ามีขนาดกว้างกว่าก็สามารถปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาคู่ขนานกันไป ซึ่งจะเพิ่มคุณภาพภูมิทัศน์ให้แก่ถนนซอยอารีย์นี้ให้เป็นย่านที่น่าอยู่อาศัยน่ามาประกอบกิจกรรมมากขึ้น

>>>>>>>>>>> 

 

                          

 <<<<<<<<<<<<

Pracob Cooparat

ผมขอแสดงความคิดเห็นใน 2 สถานะ คือ การเป็นคนที่อยู่ในย่านนี้มากว่า 40 ปี และสอง ในฐานะเป็นคนที่สนใจระบบขนส่งทางเลือก สนใจในเรื่อง การเดิน การขี่จักรยาน รถสาธารณะ และการขนส่งมวลขนที่ใช้ระบบไฟฟ้า

ชุมชนย่านซอยอารีย์ หากนับระยะทางภายในรัศมี 2 กม. จากสถานี Ari BTS ย่านนี้มีคนหนาแน่น บ้านผมอยู่ห่างจากสถานี 1,2 กม. จากสถานี หากใช้การขนส่งสาธารณะ ดังเช่นรถตุ๊กตุ๊ก ต้องจ่ายเที่ยวละ 30 บาท ไปและกลับต่อวันเท่ากับ 60 บาท หากผมขี่จักรยานไปทำธุระแถวปากซอย มีที่จอดรถจักรยานให้ผม ผมประหยัดไปได้แล้ว 60 บาท คนแบบผมมีอยู่มาก

การทำที่จอดรถจักรยานระดับจุดละ 20-100 คัน ตามที่ต่างๆในละแวกนี้จะช่วยได้มาก 

มีบางบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่นมาก เช่นปากซอยอารีย์ ซอยพหลโยธิน 1 แน่นชนิดขยับไม่ได้ในช่วง Rush hours ทางแก้ปัญหาอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องส่งเสริมให้คนเลิกเอารถออกจากบ้าน ให้ใช้การเดินและการขี่จักรยานแทน (Walking and biking alternatives) ขณะนี้ที่ผมทำได้ คือการขี่จักรยานเพื่อสันทนาการและการออกกำลังกาย โดยขี่ในช่วงดึก เขาปิดร้านแล้ว

- [ ] การปรับแก้ระบบจราจรเพื่อให้มีการใช้ระบบ One Way กระทำได้ แต่ต้องมีพลังทางการเมือง เคลื่อนไหวโดยผ่านเขตพญาไทและกทม. ทำได้ครับ แต่ต้องเคลื่อนไหว ต้องมีการแสวงหาพันธมิตร หรือ Stakeholders เช่นร้านขายจักรยาน ธนาคาร ร้านค้าที่คนสามารถเดินทางมาใช้บริกการของพวกเขาได้ในบริเวณนี้ ซึ่งอาจต้องจัดการเสวนากับคนในท้องที่กลุ่มหนึ่งเสียก่อน

- [ ] ช่องทางการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ Social media อย่าง Facebook รวมทั้งการใช้ Newsletter เสียบตามตู้จดหมายของบ้าน Apartments, Condomeniums แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องมีกระบวนการ Public hearing ทั้งหมดสามารถทำได้ ต้องอดทน ต้องใช้เวลา แต่หากทำได้ จะทำให้โครงการในลักษณะเดียวกันที่จะเกิดขึ้นในที่อื่นๆ มองเห็นหนทางที่จ่ะทำได้ในลักษณะเดียวกัน 

<<<<<<<<

Jobb Virochsiri

ถ้ามองจากภาพรวมอาจช่วยให้เห็นปัญหาและแนวทางแก้ไขได้ ที่จริงบริเวณซอยแยกแถวนี้ก็ให้เดินรถทางเดียวอยู่แล้ว ในข้อเสนอแนะนี้มีเพียงกลับทิศทางเดินรถในซอยอารีย์ 3 และให้เกิดการเดินรถทางเดียวที่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 5 (ราชครู) และซอยอารีย์ เพื่อบรรเทาความแออัด

ถ้าลดพื้นที่ถนนที่เดี๋ยวนี้เต็มไปด้วยรถยนต์ที่มาจอดติดขัดพ่นไอเสีย ทำให้เป็นย่านน่าเดินจับจ่ายซื้อของก่อนกลับบ้าน ก็น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจแถวนี้ดีขึ้นอีกด้วย และอาจเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินให้คุ้มค่าขึ้น

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1125581960890819&set=a.1121011894681159&type=3&theater

   

Jobb Virochsiri

ย่านซอยอารีย์เป็นพื้นที่ขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 กิโลเมตร จากด้านทิศตะวันออกคือแนวถนนพหลโยธิน ไปทางทิศตะวันตกข้ามถนนพระราม 6ไปจรดแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือและรถไฟฟ้าสายสีแดง ด้านทิศใต้จากซอยพหลโยธิน 5 ไปถึงถนนประดิพัทธ์ บริเวณนี้เป็นพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างแขวงสามเสนในและแขวงถนนนครไชยศรี เขตพญาไท

บริเวณปากซอยอารีย์ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีลักษณะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรม และมีความคับคั่งมากกว่าส่วนอื่น

ตำแหน่งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงยังไม่ได้รับการกำหนดชัดเจนนัก(ยังอยู่ระหว่างสืบค้นข้อมูล) แต่เห็นได้ว่าหากเกิดขึ้นก็อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อย่านที่อยู่อาศัยริมทางรถไฟ ซึ่งควรพิจารณาความเชื่อมโยงเข้ามาสู่ย่านซอยอารีย์ โดยข้ามผ่านถนนพระราม 6 ซึ่งมีทางด่วนพาดอยู่เหนือแนวคลองประปา

Jobb Virochsiri

กรุงเทพฯ เป็น "เมืองแออัดที่ไม่หนาแน่น" ครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1125581954224153&set=a.1121011894681159&type=3&theater 

Jobb Virochsiri

ย่านซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมืองที่เกิดขึ้นเนื่องจากการตัดถนนพหลโยธินออกไปสู่ภูมิภาคด้านทิศเหนือของกรุงเทพฯ ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475

ต่อมาเมื่อเมืองมีการขยายตัวมากขึ้น บริเวณนี้ได้กลายมาเป็นย่านที่มีความเจริญมากขึ้นจนนับเป็นย่านกลางเมืองในระยะเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการหลายแห่งคือ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสรรพากรและกรมประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานเขตพญาไท สำนักงานคณะกรรมการการสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานธนาคารและห้างร้านธุรกิจต่างๆ โรงพยาบาลและโรงเรียน ฯล 

การสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวทำให้เกิดคอนโดมีเนียมขึ้นหลายอาคารในบริเวณ ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการขยายเส้นทางด้านทิศเหนือออกไปถึงคูคต ลำลูกกา ส่วนด้านทิศใต้ขณะนี้ไปได้ถึงบางปูแล้ว

ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงผ่านทางด้านทิศตะวันตกซึ่งจะไปเชื่อมกับรถแอร์พอร์ทลิงค์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ และต่อไปในระยะยาวจะไปได้ถึงมหาชัย สมุทรสาคร

แม้บริเวณนี้จะดูคับคั่งแออัดในเวลากลางวันช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ยต่อตารางกิโลเมตรที่คำนวณได้จากทะเบียนสำมะโนครัวยังมีอยู่เพียงประมาณ 10,200 คน เท่านั้น

ซึ่งแสดงว่าข้าราชการและพนักงานจำนวนมากของหลายหน่วยงานและธุรกิจในบริเวณนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เดินทาง (Commuters) เข้ามาสู่พื้นที่ รวมทั้งการเดินทางตัดผ่านเข้าออกระหว่างถนนพระราม 6 และถนนพหลโยธิน

 

 



ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์
อีเมล
หัวข้อ
รายละเอียด




เมืองงาม / Urban

ตลาดยิ่งเจริญ ครบรอบ 67 ปี เดินหน้าพัฒนาธุรกิจมุ่งสร้าง “ศูนย์กลางชุมชน” ภายใต้แนวคิด “สะพานใหม่ แลนด์มาร์ค” ตามนโยบาย “Y Together”
“สมาคมธนาคารไทย” หนุน “กทม.” ขับเคลื่อนสู่เมืองเศรษฐกิจสีเขียว สร้างการเติบโตยั่งยืน
แนวทางการร่วมบูรณาการเพื่อพัฒนา “อีอีซี” สู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ความท้าทายของทุกภาคส่วน ในการเป็น ‘สมาร์ทซิตี้’
“กรุงไทย” ยกระดับฉะเชิงเทราสู่เมืองอัจฉริยะ 5 Smart ครอบคลุมวิถีชีวิตยุคใหม่
ยกระดับฉะเชิงเทราสู่ Smart City
สมาคมเพื่อนชุมชนรับโล่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ 4
ความปลอดภัยในสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น Safety in Built Environments
MQDC ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายการสร้างเมือง Smart City
Beautiful Bangkok : Smartphone Photo Contest
ทิศทางอนาคตโมเดลจัดการน้ำประเทศไทย 4.0
แก้ปัญหา "น้ำท่วม-ฝนแล้ง" ในระยะยาว...ได้หรือไม่ ?
อุสเบกิสถาน..เมืองประวัติศาสตร์โลก
ภูเก็ตพัฒนาเมือง...เปิดตัวบริษัทในเครือ ปี 2017
คลองดำเนินสะดวกปี พ.ศ.2513
มนต์เสน่ห์..อิตาลี
ศสช. เผย 5 “จังหวัดที่มีคนจนมากที่สุด”ในประเทศไทย
เที่ยวเมืองงาม-SaintPetersburg Russia
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร
จักรยาน (น้ำ) คืนชีวิตให้คลองบางลำพู
การผังเมืองไทยจากประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติ
ระบบรถไฟฟ้าชานเมืองของกรุงปารีส
แผนที่การใช้ที่ดิน กทม.
Urban Geography: Why We Live Where We Do
การพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนสาทร
การพัฒนาโครงข่ายพื้นที่สีเขียวกรุงเทพมหานคร
พระราชวังหลวงแห่งกรุงศรีอยุธยา



email : iconminfo@gmail.com / Copyright © 2016 All Rights Reserved.
IconM